ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อน 2025 นี้ มีข่าวที่ทำเอาแฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” ถึงกับงงกันถ้วนหน้า เมื่อมีรายงานว่า อาร์เซน่อล กำลังเดินหน้าอย่างจริงจังเพื่อเซ็นสัญญากับแนวรับโนเนมรายหนึ่งจาก ลา ลีกา สเปน นั่นก็คือ คริสเตียน มอสเกร่า (Cristhian Mosquera) เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งจาก บาเลนเซีย
แม้หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า เขาคือใคร? เก่งแค่ไหน? ทำไมต้องเป็นคนนี้? แต่ความจริงแล้ว นักเตะวัย 21 ปีรายนี้ถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่เติบโตเร็วที่สุดในวงการฟุตบอลสเปน และนี่คือ 5 เหตุผลที่ว่า ทำไม มิเกล อาร์เตต้า และอาร์เซน่อล ถึงเลือก “มอสเกร่า” มาเสริมแนวรับในซีซั่นหน้า
1. อายุเพียง 21 ปี – การลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า
หนึ่งในเหตุผลหลักที่ อาร์เซน่อล มองมาที่ คริสเตียน มอสเกร่า คือ “อายุ” ที่เพิ่งจะ ครบ 21 ปีในวันที่ 27 มิถุนายน 2025 ซึ่งยังถือว่าเป็นนักเตะวัยเยาว์ที่มีศักยภาพสูงและสามารถพัฒนาได้อีกมาก
แม้จะอายุน้อย แต่เขาก็ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของบาเลนเซียมาแล้วกว่า 70 นัดในลา ลีกา และแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและความเยือกเย็นในเกมรับที่ไม่ธรรมดา ทำให้หลายทีมใหญ่เริ่มจับตามอง รวมถึงอาร์เซน่อลที่ต้องการผู้เล่นระยะยาวมาสืบทอดตำแหน่งในแนวรับ
2. ร่างกายแกร่ง – สูงใหญ่แต่เคลื่อนที่คล่อง
มอสเกร่า มีพื้นฐานมาจากการเล่นบาสเกตบอลในวัยเด็ก ซึ่งช่วยเสริมสร้างความคล่องตัวและการอ่านเกมได้ดี ต่อมาเขาหันมาเอาดีทางด้านฟุตบอล และเริ่มต้นในตำแหน่งปีก ก่อนจะปรับมาเป็นเซนเตอร์แบ็กในช่วงอยู่กับทีมเยาวชนของ เอร์กูเลส และย้ายมา บาเลนเซีย ในปี 2016
ด้วยส่วนสูงถึง 188 เซนติเมตร มาพร้อมความเร็วที่น่าทึ่งสำหรับผู้เล่นตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ทำให้เขาสามารถรับมือกับกองหน้าหลากสไตล์ ทั้งลูกกลางอากาศ และการเล่นแบบสปีดจัดจ้าน ถือเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมกับฟุตบอลอังกฤษอย่างยิ่ง
3. ฟิตจัด-แข็งแกร่ง – ลงเล่นเกือบครบทุกนัดในลาลีกา
นักเตะอายุน้อยบางคนอาจยังไม่พร้อมสำหรับเกมระดับสูงแบบต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่กับ คริสเตียน มอสเกร่า เพราะเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า มีร่างกายที่แข็งแกร่งและฟิตพร้อมกรำศึกหนัก
ในฤดูกาล 2024/25 ที่เพิ่งจบไป เขาลงเล่นให้ บาเลนเซีย ไปถึง 37 นัดจาก 38 เกมลีก และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ เขา อยู่ในสนามครบ 90 นาทีทั้ง 37 นัด แบบไม่มีอาการบาดเจ็บหรือต้องถูกเปลี่ยนตัวออกเลย ส่วนฤดูกาลก่อนหน้า (2023/24) ก็ลงเล่น 36 นัด เช่นกัน
รวมแล้วในสองฤดูกาลหลังสุด มอสเกร่า ลงสนามในลา ลีกาไปถึง 73 จาก 76 นัด ซึ่งชี้ชัดว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีความสม่ำเสมอและเชื่อถือได้ในเรื่องความฟิตระดับสูงสุด
4. ค่าตัวไม่แพง – ดีลคุ้มค่าราคาไม่ถึง 20 ล้านยูโร
จากรายงานของ ESPN ระบุว่า คริสเตียน มอสเกร่า เหลือสัญญากับบาเลนเซียเพียง ปีเดียว และนั่นทำให้ต้นสังกัดของเขาเปิดกว้างในการปล่อยนักเตะออกจากทีม โดยตั้งค่าตัวไว้เพียง 20 ล้านยูโร (ประมาณ 760 ล้านบาท) เท่านั้น
ถือเป็นราคาที่ไม่สูง เมื่อเทียบกับฝีเท้าและศักยภาพของเซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งที่ลงเล่นเกมลีกระดับสูงเกือบครบทุกนัดในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา และยิ่งเมื่อพิจารณาจากตลาดนักเตะในปัจจุบัน ที่กองหลังตัวกลางเกรดดีมักมีค่าตัวสูงเกิน 40 ล้านยูโร การดึงมอสเกร่ามาร่วมทีมในราคานี้ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
5. ตอบโจทย์แผนการสร้างทีมของอาร์เตต้า
แม้ในทีม อาร์เซน่อล ปัจจุบันจะมีกองหลังหลายคนที่สามารถยืนเซนเตอร์แบ็กได้ เช่น วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, ยาคุบ คิวิออร์ แต่ มิเกล อาร์เตต้า ยังคงต้องการผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กธรรมชาติ เพื่อให้มีความลึกของทีมและรองรับการแข่งขันในหลายรายการ
แม้ว่า เบน ไวท์, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ, เยอร์เรียน ทิมเบอร์ หรือ ริคคาร์โด คาลาฟิออรี่ จะสามารถถอยมายืนเป็นตัวกลางได้ แต่ผู้เล่นเหล่านี้มีบทบาทหลักเป็นฟูลแบ็กในระบบของอาร์เตต้า จึงจำเป็นต้องมีผู้เล่นกองหลังตัวกลางแท้ๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อหมุนเวียนและลดภาระของ ซาลิบา และ กาเบรียล
การเลือก มอสเกร่า จึงสอดคล้องกับแผนสร้างทีมในระยะยาวของอาร์เซน่อล และเป็นการเสริมขุมกำลังที่น่าจับตามองอย่างมากในช่วงซัมเมอร์นี้
บทสรุป: คริสเตียน มอสเกร่า – ว่าที่กองหลังอนาคตไกลในถิ่นเอมิเรตส์?
ดีลของ คริสเตียน มอสเกร่า กับ อาร์เซน่อล ยังไม่แล้วเสร็จในเวลานี้ แต่ทุกอย่างกำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด แฟนบอลเดอะกันเนอร์สอาจได้เห็นเซนเตอร์แบ็กรายใหม่ที่ มีครบทั้งความแข็งแกร่ง, ความเร็ว, ประสบการณ์ และราคาที่จับต้องได้ เข้ามาเสริมทัพในเร็วๆ นี้
แม้ชื่อของเขาอาจยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าผู้เล่นระดับท็อปของยุโรป แต่ด้วยอายุที่ยังน้อย, สถิติการลงเล่นที่โดดเด่น, และความสามารถที่พัฒนาได้อีกมาก “มอสเกร่า” คืออีกหนึ่งโปรเจกต์ระยะยาวที่อาจกลายเป็นกำลังหลักของอาร์เซน่อลในอนาคต
ร่วมสนุกกับเว็ปสปอนเซอร์คลิ๊กสมัครได้ที่นี่

