เรอัล มาดริด ตั้งเป้ารายได้แตะ 1,300 ล้านยูโรในฤดูกาล 2025/26
เรอัล มาดริด (Real Madrid) ยอดทีมแห่งลาลีกา สเปน ยืนยันเป้าหมายใหม่ของสโมสรในการสร้าง รายได้รวมกว่า 1.3 พันล้านยูโร ภายในฤดูกาล 2025/26 ซึ่งจะเป็นสถิติสูงสุดของวงการฟุตบอล หากทำได้ตามแผน
หลังจากปิดงบประมาณในฤดูกาล 2023/24 ไปด้วย รายได้รวม 1,045 ล้านยูโร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทีมฟุตบอลสามารถทำรายได้ทะลุหลักพันล้านยูโรได้สำเร็จ ‘ราชันชุดขาว’ ก็เดินหน้าวางแผนเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเพิ่มอีกกว่า 200 ล้านยูโรภายใน 2 ปี
รายได้ทะลุพันล้านยูโร – ก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์สโมสรฟุตบอล
จากรายงานของ Marca สื่อดังในสเปน ระบุว่า รายได้ในฤดูกาลล่าสุดของเรอัล มาดริด อยู่ที่ 1,045 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากฤดูกาล 2022/23 ที่ทำไว้ 832 ล้านยูโร ส่งผลให้ เรอัล มาดริด กลายเป็นสโมสรฟุตบอลทีมแรกในโลกที่ทำรายได้ทะลุพันล้านยูโร โดยมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (837 ล้านยูโร) และ เปแอสเช (805 ล้านยูโร) ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3
เป้าหมายฤดูกาล 2025/26: แตะระดับ 1.3 พันล้านยูโร
แม้ฤดูกาล 2024/25 จะต้องเจอกับความท้าทาย เช่น การตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ส่งผลต่อรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดและการขายบัตรเข้าชม แต่การเข้าถึง รอบรองชนะเลิศ FIFA Club World Cup ที่สร้างรายได้กว่า 74 ล้านยูโร ได้ช่วยลดผลกระทบทางการเงินลงได้อย่างมาก
ทั้งนี้ งบประมาณของฤดูกาล 2024/25 ถูกตั้งไว้ที่ 1,127 ล้านยูโร โดยคาดว่าตัวเลขจริงอาจใกล้เคียง 1,200 ล้านยูโร ขณะที่เป้าหมายใหญ่ของฤดูกาล 2025/26 คือการพุ่งทะลุ 1,300 ล้านยูโร ซึ่งหากทำได้สำเร็จ จะกลายเป็น สถิติรายได้สูงสุดของสโมสรฟุตบอลในโลก
เรอัล มาดริด: โมเดลแห่งความยั่งยืนทางการเงิน
ยูฟ่า (UEFA) ยังยกให้ เรอัล มาดริด เป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการที่ยั่งยืน ด้วยเหตุผลสำคัญคือ สโมสรสามารถแสดงผลประกอบการแบบ สมดุลระหว่างรายได้และรายจ่าย ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องพึ่งพาทุนจากรัฐหรือกลุ่มทุนขนาดใหญ่
เรอัล มาดริด ยังอยู่ในกลุ่ม “Member-Owned Club” หรือ สโมสรที่เป็นของสมาชิก (Socios) ซึ่งมีเพียงไม่กี่ทีมในยุโรป เช่น บาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิค และแอธเลติก บิลเบา โมเดลนี้เปิดโอกาสให้แฟนบอลที่จ่ายค่าสมาชิกมีสิทธิ์โหวตเลือกประธานสโมสร อนุมัติงบประมาณ และมีส่วนร่วมในการตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ของทีมอย่างโปร่งใส
