กระแสร้อนแรงในโลกฟุตบอลอังกฤษ กลับมาอีกครั้ง เมื่อ แอนดี้ โกลด์สตีน (Andy Goldstein) ผู้สื่อข่าวจากสื่อกีฬาชื่อดัง TalkSPORT ออกมาเปิดเผยความคิดเห็นว่า หาก อาร์เซน่อล สามารถเซ็นสัญญาคว้าตัว ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi) มาจาก อินเตอร์ ไมอามี่ ได้ในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ เพียงแค่คนเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ “ปืนใหญ่” กลับมาคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี พร้อมทั้งแซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ได้แบบไม่ยากเย็น
อาร์เซน่อล กับเส้นทาง “เกือบ” สู่แชมป์ 3 ปีซ้อน
ในช่วงสามฤดูกาลล่าสุด ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ต้องจบด้วยตำแหน่ง “รองแชมป์พรีเมียร์ลีก” ติดต่อกันถึง 3 ปี โดยเฉพาะในฤดูกาล 2024/25 ที่พวกเขาไล่บี้กับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างสูสี แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถแตะถ้วยแชมป์ได้เสียที
ปัญหาใหญ่ที่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชี้ตรงกัน ก็คือ “การขาดศูนย์หน้าตัวเป้า” ที่มีศักยภาพในการจบสกอร์ระดับโลก แม้ว่า ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล เชซุส และ เลอันโดร ทรอสซาร์ จะมีบทบาทในแนวรุก แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถแบกเกมรุกหรือทำประตูแบบสม่ำเสมอเหมือนดาวยิงระดับท็อปได้
โกลด์สตีน เชื่อ เมสซี่ คือคำตอบเดียวที่ อาร์เซน่อล ต้องการ
จากการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา โกลด์สตีนแสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า การเซ็น เมสซี่ เพียงคนเดียว จะเป็นดีลที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของอาร์เซน่อลได้ทันที และน่าจะเพียงพอให้ทีมผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025/26 ได้แน่นอน
“คุณรู้มั้ย ผมคิดว่า หาก เมสซี่ เล่นเป็นกองหน้าให้ อาร์เซน่อล เขาจะพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้” โกลด์สตีนกล่าว
“ไค ฮาแวร์ตซ์ ไม่ใช่คำตอบ เขาเล่นตรงนั้นได้ แต่เขาไม่ใช่หมายเลข 9 ตัวจริง หากคุณมี เมสซี่ ในทีม…เขาสามารถทำประตู เปลี่ยนเกม และยกระดับผู้เล่นคนอื่นได้”
โกลด์สตีนยังชี้ว่า จุดแข็งของอาร์เซน่อลคือระบบเกมรุกที่วางโครงไว้ดีแล้ว แต่ยังขาด “ตัวจบสกอร์ระดับเวิลด์คลาส” ที่สามารถเปลี่ยนเกมและกดดันแนวรับฝ่ายตรงข้ามได้ตลอดเวลา ซึ่งเขาเชื่อว่า เมสซี่ ตอบโจทย์ตรงนี้แบบครบถ้วน
ทำไม “เมสซี่” ถึงยังน่าสนใจ แม้อายุ 37?
แม้ปัจจุบัน ลิโอเนล เมสซี่ จะอายุ 37 ปี และค้าแข้งใน เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) กับทีม อินเตอร์ ไมอามี่ แต่ฟอร์มของเจ้าของบัลลงดอร์ 8 สมัยยังคงยอดเยี่ยม เขาทำไปแล้ว 20 ประตู กับ 12 แอสซิสต์ ใน 25 นัดให้กับต้นสังกัดในฤดูกาลล่าสุด
ที่สำคัญ เมสซี่ยังคงรักษาสภาพร่างกายได้ดี และมีความสามารถในการสร้างสรรค์เกมในระดับที่หาใครเทียบได้ยาก
ปืนใหญ่เดินหน้าตลาดนักเตะ – ยังไร้ความคืบหน้าที่ชัดเจน
แม้อาร์เซน่อลจะมีข่าวเชื่อมโยงกับกองหน้าหลายราย เช่น วิคตอร์ โยเคเรส ของสปอร์ติง ลิสบอน และ เบนจามิน เซสโก้ ของไลป์ซิก แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนใด ๆ ว่าดีลเหล่านี้จะจบลงเช่นไร โดยเฉพาะในรายของเซสโก้ที่มีข่าวว่าเรียกร้องค่าเหนื่อยสูงเกินความเหมาะสม
จึงไม่แปลกที่ข้อเสนอของโกลด์สตีนในการหันไปดึง “ตำนานที่ยังมีชีวิต” อย่างเมสซี่ กลับมาเล่นในยุโรป จะกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในแวดวงสื่ออังกฤษ
ลิเวอร์พูล กับความกดดันใหม่ หาก “เมสซี่” โผล่ในลอนดอนเหนือ
สำหรับ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกล่าสุดภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สลอต ที่เข้ามาสานต่องานจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเจอกับความท้าทายครั้งใหม่ หากเมสซี่กลายเป็นสมาชิกของอาร์เซน่อลจริง เพราะไม่เพียงแค่พวกเขาจะต้องรักษามาตรฐานของตนเองให้ได้ แต่ยังต้องเจอกับคู่แข่งที่มีหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลในแนวรุกอีกด้วย
การปรากฏตัวของเมสซี่ในพรีเมียร์ลีก จะเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดทั้งแฟนบอล สื่อ และสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วลีก และอาจทำให้ การแข่งขันชิงแชมป์ฤดูกาล 2025/26 เข้มข้นยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
โอกาสเกิดขึ้นจริง? เมสซี่ จะกลับพรีเมียร์ลีกได้ไหม?
ในความเป็นจริง โอกาสที่ เมสซี่จะย้ายกลับยุโรป โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีกนั้นถือว่าน้อยมาก เพราะเขาเพิ่งเซ็นสัญญากับอินเตอร์ ไมอามี่ ไปจนถึงสิ้นปี 2025 และมีความสุขกับชีวิตที่อเมริกา อย่างไรก็ตาม โลกฟุตบอลเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และการที่ชื่อของเขายังคงถูกกล่าวถึงในตลาดนักเตะบ่อยครั้ง ก็แสดงให้เห็นว่าเขายังเป็นที่ต้องการของหลายสโมสร
หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง เมสซี่จะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะอายุมากที่สุดที่เคยย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก และน่าจะสร้างสถิติผู้ชม, ยอดขายเสื้อ และความตื่นเต้นในวงการได้มหาศาล
สรุป: เมสซี่ + อาร์เซน่อล = แชมป์พรีเมียร์ลีก?
แม้จะเป็นเพียงการคาดการณ์และความเห็นส่วนตัวของนักข่าวอย่าง แอนดี้ โกลด์สตีน แต่ประเด็นนี้ก็ได้จุดประกายความหวังและจินตนาการให้กับแฟนบอลอาร์เซน่อลทั่วโลกว่า หากพวกเขาได้ ลิโอเนล เมสซี่ มาร่วมทีมจริง ๆ โอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่รอคอยมาตั้งแต่ปี 2004 อาจไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
ไม่ว่าดีลนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่มันก็สะท้อนให้เห็นว่า “จิ๊กซอว์สุดท้าย” ของอาร์เซน่อลในยุคมิเกล อาร์เตต้า อาจไม่ได้ต้องการผู้เล่น 2-3 คนเสมอไป แต่อาจต้องการเพียงแค่ หนึ่งเดียวที่เปลี่ยนทุกอย่างได้ – ลิโอเนล เมสซี่
ร่วมสนุกกับเว็ปสปอนเซอร์คลิ๊กสมัครได้ที่นี่
