จัดอันดับเจ้าของสโมสรพรีเมียร์ลีก 2025: แมนยูรั้งบ๊วย, ไบรท์ตันเบอร์ 1 – แมนฯ ซิตี้ แซงลิเวอร์พูลขึ้นรองแชมป์

GIVEMESPORT สื่อฟุตบอลชื่อดังจากอังกฤษ ได้จัดอันดับ เจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ลีก 2025 ทั้ง 20 ทีม โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ผลกระทบต่อสโมสร, ความสำเร็จ, และ ความสัมพันธ์กับแฟนบอล

ผลการจัดอันดับในปีนี้น่าสนใจไม่น้อย เมื่อทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) รั้งอันดับสุดท้าย ขณะที่ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (Brighton) สร้างเซอร์ไพรส์ผงาดขึ้นครองอันดับ 1 ข้างหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) และ ลิเวอร์พูล (Liverpool)


ความสำคัญของ “เจ้าของสโมสร” ในพรีเมียร์ลีก

ในยุคฟุตบอลยุคใหม่ เจ้าของสโมสรฟุตบอล ไม่ได้เป็นเพียงผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุนเท่านั้น แต่พวกเขาคือผู้มีบทบาทสำคัญในทิศทางของสโมสร ไม่ว่าจะเป็นการวางนโยบายระยะยาว การบริหารทีมงานเบื้องหลัง การตัดสินใจในการซื้อ-ขายนักเตะ ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์กับฐานแฟนบอล

พรีเมียร์ลีกถือเป็นลีกที่รวบรวมกลุ่ม อภิมหาเศรษฐีจากทั่วโลก เอาไว้มากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถบริหารทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเป็นที่รักของแฟนบอล


20 อันดับเจ้าของสโมสรพรีเมียร์ลีก ปี 2025 โดย GIVEMESPORT

อันดับ 20: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ตระกูลเกลเซอร์ & เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์

  • ความไม่โปร่งใสในนโยบายการบริหาร

  • ขาดความชัดเจนในการสนับสนุนงบประมาณ

  • ความสัมพันธ์กับแฟนบอลยังห่างเหิน

แม้จะมีการเข้ามาของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ด้วยการถือหุ้น 28.94% เพื่อหวังปฏิรูปทีม แต่การอยู่ร่วมกับ ตระกูลเกลเซอร์ (ยังถือ 51.75%) ทำให้การบริหารยังคงขาดเอกภาพ


อันดับ 19: เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – เดวิด ซัลลิแวน, แดเนี่ยล ครีตินสกี้, วาเนสซ่า โกลด์

  • บริหารงานค่อนข้างขาดเสถียรภาพ

  • การสื่อสารกับแฟนบอลไม่ชัดเจน

อันดับ 18: ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ – เอนิก กรุ๊ป, แดเนี่ยล เลวี่

  • แฟนบอลวิจารณ์การขาดการลงทุนในนักเตะระดับท็อป

  • บอร์ดบริหารโดนตั้งคำถามเรื่องเป้าหมายของสโมสร


อันดับ 17: ฟูแล่ม – ชาฮิด ข่าน

  • ลงทุนพอประมาณ

  • ไม่มีวิสัยทัศน์ระยะยาวที่ชัดเจน

อันดับ 16: เบิร์นลีย์ – ALK Capital, Velocity Sports Partners

  • การบริหารเน้นธุรกิจ มากกว่าความสำเร็จในสนาม

อันดับ 15: ลีดส์ ยูไนเต็ด – 49ers Enterprises

  • เริ่มมีการลงทุนมากขึ้นแต่ยังต้องพิสูจน์ผลงาน


อันดับ 14: อาร์เซน่อล – สแตน โครนเก้

  • แม้ทีมจะฟอร์มดี แต่เจ้าของยังโดนวิจารณ์เรื่องการมีส่วนร่วม

  • ความสัมพันธ์กับแฟนบอลไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร

อันดับ 13: วูล์ฟส์ – Fosun International

  • ลงทุนลดลงหลังจากโควิด-19

  • ทีมเริ่มขาดความต่อเนื่อง

อันดับ 12: เชลซี – Todd Boehly และกลุ่ม BlueCo

  • ทุ่มงบไม่อั้น แต่ยังไร้ความสำเร็จ

  • การซื้อขายนักเตะดูไร้ทิศทาง


อันดับ 11: ซันเดอร์แลนด์ – Kyril Louis-Dreyfus, Juan Sartori

  • มีความกระตือรือร้นและลงทุนแบบยั่งยืน

  • เน้นพัฒนาเยาวชนและระบบระยะยาว

อันดับ 10: เอฟเวอร์ตัน – Friedkin Group

  • พยายามฟื้นฟูภาพลักษณ์และการเงินของสโมสร

  • การบริหารมีแนวโน้มดีขึ้น


อันดับ 9: คริสตัล พาเลซ – Steve Parish และกลุ่ม Textor

  • มีแนวทางชัดเจน, พัฒนาสโมสรอย่างยั่งยืน

  • ได้รับการยอมรับจากแฟนบอล

อันดับ 8: บอร์นมัธ – Bill Foley

  • บริหารเชิงธุรกิจแบบมีประสิทธิภาพ

  • ขยายเครือข่ายการลงทุนด้านกีฬาในหลายประเทศ


อันดับ 7: นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด – กลุ่มทุนซาอุฯ (PIF)

  • มีทุนมหาศาล

  • ผลักดันสโมสรขึ้นสู่แถวหน้าพรีเมียร์ลีกอย่างรวดเร็ว

  • แฟนบอลสนับสนุนเต็มที่แม้จะมีประเด็นสิทธิมนุษยชนแทรก

อันดับ 6: น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ – Evangelos Marinakis

  • มีวิสัยทัศน์พัฒนาสโมสร

  • เริ่มมีผลการแข่งขันเป็นรูปธรรม


อันดับ 5: แอสตัน วิลล่า – V Sports

  • ลงทุนอย่างชาญฉลาดและยั่งยืน

  • สโมสรมีการเติบโตอย่างชัดเจนใน 2 ปีที่ผ่านมา

อันดับ 4: เบรนท์ฟอร์ด – Matthew Benham

  • บริหารแบบ Moneyball เน้นสถิติและข้อมูล

  • พาสโมสรเติบโตจากลีกล่างสู่พรีเมียร์ลีกได้อย่างน่าชื่นชม


ท็อป 3 เจ้าของสโมสรพรีเมียร์ลีก 2025

อันดับ 3: ลิเวอร์พูล – Fenway Sports Group (FSG)

  • วางแผนระยะยาวได้ดี

  • ได้แชมป์หลายรายการในยุค คล็อปป์

  • การสื่อสารกับแฟนบอลยังมีข้อจำกัดบ้าง

อันดับ 2: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – City Football Group

  • ประสบความสำเร็จในทุกด้าน

  • พัฒนาสโมสรอย่างยั่งยืนทั้งด้านกีฬาและการตลาด

  • เป็นโมเดลบริหารที่หลายสโมสรพยายามเลียนแบบ

อันดับ 1: ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน – โทนี่ บลูม

  • บริหารด้วยวิสัยทัศน์ระยะยาว

  • ค้นพบโค้ชและนักเตะคุณภาพในราคาที่เหมาะสม

  • ได้รับความเคารพจากแฟนบอลและวงการฟุตบอล


สรุป: ความเข้าใจใหม่ในบทบาท “เจ้าของทีม”

การจัดอันดับนี้ชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จในสนามเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เจ้าของสโมสรที่ดีต้องมีองค์ประกอบครบทั้งวิสัยทัศน์, การบริหารอย่างโปร่งใส, และความผูกพันกับแฟนบอล

ในขณะที่บางสโมสรยังอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูภาพลักษณ์หรือสร้างความมั่นคง เช่น แมนยู, สเปอร์ส, เวสต์แฮม สโมสรอย่าง ไบรท์ตัน, แมนฯ ซิตี้, เบรนท์ฟอร์ด กลับกลายเป็นต้นแบบในการบริหารที่แฟนบอลยอมรับ

ufa888vip

                             ร่วมสนุกกับเว็ปสปอนเซอร์คลิ๊กสมัครได้ที่นี่