ลิเวอร์พูล สโมสรแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลล่าสุด ประกาศเปิดตัวนักเตะใหม่อย่างเป็นทางการ โดยเซ็นสัญญาคว้าตัว เฟร็ดดี้ วู้ดแมน (Freddie Woodman) ผู้รักษาประตูชาวอังกฤษ จาก เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ แบบไม่มีค่าตัว หลังเจ้าตัวกำลังจะหมดสัญญากับต้นสังกัดเดิมภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
แม้จะไม่ใช่ดีลที่หวือหวาหรือเป็นที่พูดถึงมากนัก แต่การเสริมทัพในตำแหน่งผู้รักษาประตูมือสาม ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเชิงลึกของ “หงส์แดง” ภายใต้การบริหารจัดการทีมที่ยังคงยึดแนวคิดบริหารทีมแบบรัดกุม มีแผนสำรองรองรับทุกสถานการณ์
เฟร็ดดี้ วู้ดแมน คือใคร? เส้นทางอาชีพก่อนมาสวมยูนิฟอร์มลิเวอร์พูล
เฟร็ดดี้ วู้ดแมน เกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 1997 ปัจจุบันอายุ 28 ปี เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในอะคาเดมี่ของ คริสตัล พาเลซ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในปี 2013 และกลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ได้รับการจับตามองในระดับเยาวชน
วู้ดแมน เคยเป็นผู้รักษาประตูตัวหลักให้ทีมชาติอังกฤษชุดยู-20 ชุดแชมป์โลกปี 2017 และยังได้รับรางวัล “โกลเด้น โกลฟ” ในทัวร์นาเมนต์นั้น ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งในระดับพรีเมียร์ลีก
แม้จะไม่ได้ยึดตำแหน่งตัวจริงกับ “สาลิกาดง” ได้ในระยะยาว แต่วู้ดแมนก็เก็บประสบการณ์กับหลายสโมสรในลีกล่าง เช่น คิลมาร์น็อค, สวอนซี ซิตี้, อเบอร์ดีน และเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ซึ่งที่เปรสตัน เขากลายเป็นกำลังหลักของทีมอย่างแท้จริง
ตัวเลขที่น่าจับตา: 138 นัดกับเปรสตัน ตลอด 3 ฤดูกาล
วู้ดแมนลงสนามให้กับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ไปทั้งหมด 138 นัด ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลใน แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ถือเป็นผู้รักษาประตูที่มีความสม่ำเสมอในการลงเฝ้าเสา และยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในด้านฟอร์มการเล่นและสภาพร่างกาย
ความสามารถในการอ่านเกม, ความมั่นใจในการออกบอล รวมถึงการควบคุมพื้นที่กรอบเขตโทษ เป็นจุดแข็งที่ทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกของลิเวอร์พูลในการเสริมความลึกของทีมในตำแหน่งผู้รักษาประตู
ทำไมลิเวอร์พูลต้องเซ็น เฟร็ดดี้ วู้ดแมน?
การที่ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจคว้า วู้ดแมน เข้าร่วมทีมแบบฟรีเอเยนต์ มีเหตุผลหลายประการที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการทีมของสโมสร:
-
เสริมความลึกในตำแหน่งสำคัญ: ลิเวอร์พูลมีผู้รักษาประตูมือหนึ่งคือ อลีสซง เบ็คเกอร์ และเพิ่งคว้าตัว จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ เข้ามาเป็นมือสอง แต่การมีโกลมือสามที่เชื่อถือได้และมีประสบการณ์ในลีกอาชีพถือเป็นสิ่งจำเป็น
-
ตอบโจทย์กรณีฉุกเฉิน: ฤดูกาลที่ยาวนานและการแข่งขันหลายรายการทำให้ทีมต้องมีแผนสำรองรองรับอาการบาดเจ็บหรือการติดภารกิจทีมชาติของผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู
-
ประสบการณ์ในอังกฤษ: วู้ดแมนรู้จักฟุตบอลอังกฤษเป็นอย่างดี เคยเล่นทั้งในพรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนชิพ และฟุตบอลถ้วยหลายรายการ จึงปรับตัวเข้ากับระบบของทีมได้ไม่ยาก
-
ไม่เสียค่าตัว: ในยุคที่การบริหารสโมสรต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า การคว้าผู้เล่นแบบไม่มีค่าตัวที่มีคุณภาพระดับนี้ถือเป็นดีลที่สมเหตุสมผล
โอกาสของวู้ดแมนกับลิเวอร์พูล: มากกว่าแค่ “มือสาม”
แม้ว่าหลายฝ่ายมองว่า เฟร็ดดี้ วู้ดแมน จะเป็นเพียงผู้รักษาประตูมือสามของทีม แต่ในโลกฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ตัวอย่างชัดเจนคือการที่ อาเดรียน หรือแม้แต่ เคลเลเฮอร์ เคยก้าวขึ้นมาทำผลงานโดดเด่นในยามที่มือหนึ่งบาดเจ็บ
วู้ดแมนเองก็มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นมากกว่าแค่ “ตัวสำรอง” หากเขาโชว์ฟอร์มได้ดีในการฝึกซ้อม หรือในเกมบอลถ้วย ก็มีโอกาสได้ลงสนามและพิสูจน์ตัวเองในระดับสูงสุดเช่นกัน
สถานการณ์ของตำแหน่งผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลตอนนี้
-
อลีสซง เบ็คเกอร์: ยังเป็นมือหนึ่งของทีม และยังคงมีสัญญาระยะยาวกับสโมสร
-
จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่: ผู้รักษาประตูทีมชาติจอร์เจีย ที่เพิ่งย้ายมาในซัมเมอร์นี้ พร้อมกดดันตำแหน่งมือหนึ่ง
-
เฟร็ดดี้ วู้ดแมน: โกลมือสามที่มากประสบการณ์ในลีกอังกฤษ พร้อมรับบทบาทหมุนเวียนในบอลถ้วย
-
อาเดรียน / เคลเลเฮอร์: มีแนวโน้มจะย้ายออกเพื่อหาโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ
บทสรุป: ดีลเล็กที่มีความหมาย – เฟร็ดดี้ วู้ดแมน กับโอกาสครั้งใหม่ในแอนฟิลด์
การเซ็นสัญญากับ เฟร็ดดี้ วู้ดแมน อาจไม่ใช่ดีลที่เป็นข่าวใหญ่โต แต่ถือเป็นการเสริมทัพเชิงลึกที่สำคัญสำหรับสโมสรระดับแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล ที่ต้องรับมือกับโปรแกรมแข่งขันที่หนักหน่วง
ด้วยประสบการณ์ในลีกอังกฤษ, ความฟิตที่ยอดเยี่ยม และการเป็นมืออาชีพที่ผ่านบททดสอบมาแล้วมากมาย วู้ดแมนมีโอกาสที่จะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำรองคนสำคัญ ที่สามารถตอบแทนความไว้ใจของทีมงานได้ทุกเมื่อ
แฟนหงส์แดงอาจไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากดีลนี้ แต่ในโลกของฟุตบอล บางครั้ง “ดีลฟรี” ก็อาจกลายเป็น “ขุมกำลังลับ” ที่มีผลต่อความสำเร็จในระยะยาวก็เป็นได้
ร่วมสนุกกับเว็ปสปอนเซอร์คลิ๊กสมัครได้ที่นี่
