11 แข้งค่าเหนื่อยแพงสุดตลอดกาล แมนยู มีใครบ้าง? ฟอร์มคุ้มหรือเจ็บจี๊ด!
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ทุ่มงบประมาณค่าเหนื่อยสูงสุดในวงการลูกหนังอังกฤษ และโลกฟุตบอลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเซ็นสัญญานักเตะด้วยค่าเหนื่อยระดับมหาศาลสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังของสโมสรที่ต้องการสร้างทีมระดับแชมป์ แต่คำถามคือ… “เงินที่จ่ายไปคุ้มค่าหรือเปล่า?“
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก “11 นักเตะที่มีค่าเหนื่อยแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนยู” พร้อมวิเคราะห์ว่าแต่ละรายทำผลงานได้สมกับเงินที่ได้รับหรือไม่
1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ – 515,000 ปอนด์/สัปดาห์
นักเตะค่าเหนื่อยแพงที่สุดตลอดกาลของแมนยู โรนัลโด้กลับมาสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี 2021 พร้อมกับสัญญาค่าเหนื่อยสูงลิ่ว แม้จะยิงได้ถึง 24 ประตูในฤดูกาลแรก แต่ซีซั่นถัดมาฟอร์มตกและจบลงด้วยการแยกทางก่อนครบสัญญา กลายเป็นดีลที่ทั้งหวานและขมในเวลาเดียวกัน
2. ดาบิด เด เคอา – 375,000 ปอนด์/สัปดาห์
ตำนานผู้รักษาประตูของ “ปีศาจแดง” ที่รับใช้สโมสรมายาวนานกว่า 12 ปี ช่วงพีกของเขาถือว่าเหนียวแน่นจนถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโกลที่ดีที่สุดในโลก แต่ในช่วงท้ายฟอร์มดรอปและเริ่มมีความผิดพลาดบ่อยครั้ง กลายเป็นดีลที่ “เริ่มคุ้มแต่จบไม่สวย”
3. อเล็กซิส ซานเชซ – 350,000 ปอนด์/สัปดาห์
การย้ายมาจากอาร์เซน่อลพร้อมการเปิดตัวด้วยการเล่นเปียโน กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ไม่อยากจำของแฟนผี ฟอร์มของปีกชาวชิลีดิ่งลงเหวแบบไม่คาดคิด และแทบไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันให้กับทีมเลย เรียกได้ว่าเป็น “ดีลที่เจ็บจี๊ดสุดในยุคหลัง”
4. กาเซมีโร่ – 350,000 ปอนด์/สัปดาห์
หลังย้ายจากเรอัล มาดริด ด้วยโปรไฟล์ที่หรูหรา กาเซมีโร่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งแดนกลางในฤดูกาลแรก แต่หลังจากนั้นก็เผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บ และการปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ กลายเป็นอีกหนึ่งดีลที่ทำให้เกิดคำถามว่า “จ่ายแพงเกินไปหรือเปล่า?”
5. ราฟาแอล วาราน – 340,000 ปอนด์/สัปดาห์
อดีตกองหลังแชมป์โลกจากเรอัล มาดริด เข้าร่วมทีมด้วยความหวังว่าจะสร้างผนังเหล็กให้กับแนวรับ แต่ต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บเกือบตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างต่อเนื่อง
6. ปอล ป็อกบา – 290,000 ปอนด์/สัปดาห์
“ป็อกแบ็ค” กลายเป็นหนึ่งในดีลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก ค่าตัวแพง ค่าจ้างสูง แต่ผลงานกลับผันผวน ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เล่นดีทำให้เห็นถึงพรสวรรค์ แต่โดยรวมแล้ว “ไม่สม่ำเสมอ” และจบลงด้วยการย้ายออกแบบฟรีๆ
7. ราดาเมล ฟัลเกา – 285,000 ปอนด์/สัปดาห์
อีกหนึ่งนักเตะที่มาพร้อมกับความหวังแต่กลับล้มเหลว ฟัลเกายิงได้เพียง 4 ประตูจาก 29 นัด พร้อมค่าเหนื่อยและค่ายืมตัวที่มหาศาล กลายเป็นอีกตัวอย่างของการลงทุนที่ไม่คุ้มในยุคหลังเฟอร์กูสัน
8. มาร์คัส แรชฟอร์ด – 300,000 ปอนด์/สัปดาห์
หลังต่อสัญญาใหม่ในปี 2023 ด้วยค่าเหนื่อยระดับท็อป แรชฟอร์ดกลับไม่สามารถยกระดับฟอร์มได้อีก ปัจจุบันถูกปล่อยยืมตัวให้บาร์เซโลน่าแบบแบกรับค่าเหนื่อยเต็มจำนวน เป็นอีกกรณีศึกษาสำหรับสโมสรในการให้สัญญาระยะยาว
9. มาตไตส์ เดอ ลิกต์ – 195,000 ปอนด์/สัปดาห์
กองหลังดาวรุ่งชาวดัตช์เพิ่งย้ายมาร่วมทีมไม่นาน และยังต้องพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีก หากสามารถพัฒนาฝีเท้าขึ้นตามคาด ก็มีโอกาสเป็นดีลที่คุ้มค่าในอนาคต
10. ลุค ชอว์ – 150,000 ปอนด์/สัปดาห์
แม้จะอยู่กับทีมมายาวนาน แต่ปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้เขาพลาดลงสนามจำนวนมากใน 2 ฤดูกาลหลัง การให้ค่าเหนื่อยระดับสูงกับผู้เล่นที่ไม่ฟิตเต็มร้อยจึงกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ควรทบทวน
11. นุสแซร์ มาซราวี – 135,000 ปอนด์/สัปดาห์
ฟูลแบ็กจากบาเยิร์น มิวนิค ย้ายมาพร้อมฟอร์มที่น่าประทับใจในฤดูกาลแรก แม้จะรับค่าเหนื่อยสูงกว่าหลายตำนานแบ็กของแมนยู แต่ผลงานของเขายังพอทำให้แฟนบอลยอมรับได้
สรุป – แมนยูจ่ายแพงแต่ไม่ค่อยคุ้ม?
หากพิจารณา 11 นักเตะค่าเหนื่อยแพงสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพบว่ามีเพียงไม่กี่รายที่สามารถตอบแทนเงินมหาศาลที่สโมสรทุ่มให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนใหญ่ประสบปัญหาฟอร์มตก, ปรับตัวไม่ได้ หรือเจ็บบ่อย
แน่นอนว่า “การจ่ายค่าเหนื่อยแพง” ไม่ได้การันตี “ความสำเร็จในสนาม” และสำหรับ แมนยู การบริหารจัดการค่าเหนื่อยนักเตะให้เหมาะสมกับฟอร์มในสนาม อาจเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าแค่ชื่อเสียงหรือความหวือหวาของดีล

